หนึ่งในปัญหาโลกแตกของการสร้างบ้านคือ การเลือกว่าจะใช้ประตูบ้านแบบเปิดเข้าหรือเปิดออกดี ความจริงแล้วปัญหานี้ไม่ได้มีคำตอบตายตัวว่าอันไหนดีกว่ากัน ขึ้นอยู่กับว่าคนที่ตอบใช้หลักเกณฑ์อะไรในการคิดหรือในการวัดว่าอะไรดีกว่าอะไร บางครั้งก็ใช้รสนิยมส่วนตัวตัดสิน บางครั้งก็ใช้ศาสตร์ฮวงจุ้ย ต่อให้เป็นหลักฮวงจุ้ยก็สามารถแบ่งได้หลายแขนง บางครั้งก็ใช้หลักสถาปัตยกรรม หรือบางครั้งก็ใช้แค่ความสวยงามเป็นหลัก แล้วก็เป็นการจัดการกับปัญหาโลกแตกนี้
วันนี้ทางเราคลังวัสดุไม้จึงนำทั้งข้อดีและข้อเสียของการติดตั้งประตูบ้านทั้งสองแบบมาฝากทุกท่าน เมื่อรู้แล้วจะได้ใช้ประกอบการตัดสินใจได้ง่ายขึ้นค่ะ นอกจากประตูหน้าบ้านแล้วในบทความนี้ยังนำวิธีการเลือกรูปแบบการติดตั้งประตูในห้องแต่ละห้องมาฝากทุกท่านด้วยค่ะ
ข้อดีและข้อเสียของการติดตั้งประตูแบบเปิดเข้า
ป้องกันการเปิดชนกับผู้อื่นที่อยู่ภายนอก ปัญหานี้สำหรับบ้านเดี่ยวอาจจะไม่ค่อยพบเจอบ่อยนะคะ แต่สำหรับพื้นที่อยู่อาศัยที่อยู่ร่วมกันหลายคนอย่าง คอนโดมิเนียม อพาร์ทเม้นท์ หรือหอพักต่าง ๆ การเปิดประตูเข้าด้านในจะช่วยป้องกันการชนผู้อื่นที่อยู่ภายนอกห้องได้ค่ะ แต่สำหรับคนที่อาศัยอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวเล็ก ๆ ก็อาจไม่พบเจอปัญหานี้บ่อยนัก
ในบ้านเรือนการใช้ประตูแบบเปิดเข้ามักจะนำไปใช้กับห้องนอน ห้องน้ำ และประตูหน้าบ้าน ส่วนห้องที่ไม่เหมาะกับการใช้ประตูแบบนี้คือ ห้องเก็บของ ประตูหลังบ้าน และห้องครัว หรือห้องที่มีเนื้อที่น้อยมาก ๆ เช่น ห้องน้ำ ที่ต้องมีการติดตั้งสุขภัณฑ์ไว้หลายจุด การใช้ประตูแบบเปิดเข้าก็อาจทำให้ไปชนกับสุขภัณฑ์เหล่านั้น หากคำนวณเนื้อที่ผิดพลาดหรือคำนวณในที่มาไม่ดี ซึ่งรวมถึงห้องประเภทห้องเก็บของพี่อาจมีของตั้งไว้และเกะกะด้วยเช่นกัน
ข้อดีและข้อเสียของการติดตั้งประตูแบบเปิดออก
ประตูแบบเปิดออกคือ ประตูที่ผู้ใช้จะต้องดึงประตูเข้าหาตัวเองก่อนจึงจะเดินเข้าสู่พื้นที่นั้น ๆ ได้ จากนั้นค่อยทำการปิดประตูจากด้านใน การติดตั้งประตูด้วยวิธีนี้จะทำให้พื้นที่ใช้สอยภายในบ้านหรือตามจุดต่าง ๆ มีเนื้อที่โปร่งโล่งมากขึ้น นั่นเพราะประตูแบบเปิดเข้าจะกินเนื้อที่มากกว่าเวลาเปิดเข้ามา แต่ประตูแบบเปิดออกจะไม่กินเนื้อที่ภายในอะไรเลย ทำให้ไม่เกะกะกับคนที่อยู่ข้างใน จึงทำให้เหมาะมากกับการใช้สำหรับพื้นที่ที่มีพื้นที่น้อย ๆ เช่น ห้องเก็บของ ห้องน้ำ แล้วเหมาะกับประตูหลักหน้าบ้าน
ประตูประเภทนี้จะไม่เหมาะกับพื้นที่ที่มีความเสี่ยงในการชนกันภายนอกห้อง เช่น ประตูตามหอพัก คอนโดมิเนียม หรืออพาร์ทเม้นท์ทั่วไป ซึ่งเป็นประตูที่ต้องใช้ทางเดินร่วมกันและแต่ละห้องก็อยู่ใกล้กัน อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ ซึ่งรวมไปถึงห้องน้ำรวมหรือห้องน้ำสาธารณะต่าง ๆ ด้วยเช่นกัน
ประตูหลักหน้าบ้านใช้ประตูแบบไหนปลอดภัยมากกว่า
- ปัญหาโจรผู้ร้าย
หนึ่งในจุดประสงค์หลักที่สุดของการมีประตูบ้านการรักษาความปลอดภัยให้กับคนในบ้าน สิ่งที่เรามักจะเห็นกันในหนังแอ็คชั่นต่าง ๆ เวลาถึงฉากที่โจรจะบุกเข้าบ้าน จะเห็นว่าโจรมักจะใช้แรงในการถีบประตูเข้าไปข้างใน ถ้าแรงเตะหรือถีบที่มากพอก็สามารถผลักประตูให้พังเข้าไปข้างในได้ แต่ในกรณีที่ใช้ประตูแบบเปิดออก ปกติแล้วประตูประเภทนี้จะถูกกั้นไว้ด้วยธรณีประตู หรือไม่บานประตูก็จะอยู่ต่ำกว่าพื้นบ้าน จุดนี้เองที่จะช่วยป้องกันการพังประตูจากภายนอก ซึ่งก็จะช่วยยื้อเวลาให้เจ้าของบ้านได้ยินเสียงการพังประตูมากขึ้น
อย่างไรก็ดีการใช้ประตูแบบเปิดออกจะมีจุดสังเกตอยู่ตรงที่ บานพับประตูจะโผล่ออกด้านนอกทำให้โจรหรือผู้ร้ายอาจงัดแงะเข้าไปในบ้านได้ แตกต่างจากประตูเปิดเข้าที่ประตูจะเรียกไปกับวงกบ อย่างไรก็ดีแม้จะนัดนี้ได้แต่โจรก็ต้องใช้เวลานานกว่าการพังประตูเข้าไปอยู่ดี นั่นเพราะจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์เสริมในการช่วยงัดประตูอย่าง เช่น เครื่องตัด จึงทำให้ยุ่งยากกว่า
- ปัญหาอัคคีภัย
สำหรับปัญหาอัคคีภัยการใช้ประตูแบบเปิดเข้าจะทำให้หนีออกมาจากตัวบ้านได้ยากกว่า เพราะจำเป็นต้องถอยตัวเข้าไปในบ้านเพื่อหลบวงประตูเวลาเปิด ซึ่งแน่นอนว่าเวลาเกิดอัคคีภัยเวลาแค่เสี้ยววินาทีเดียวนั่นอาจหมายถึงชีวิต ลักษณะประตูแบบเปิดออกจึงปลอดภัยมากกว่า
- จากปัญหาฝุ่น
ประตูแบบเปิดเข้าในการออกแบบเมื่อปิดประตูจำเป็นต้องมีช่องว่างเล็ก ๆ เอาไว้ระหว่างพื้นบ้านและประตู ซึ่งช่องว่างตรงนี้เองที่จะทำให้ฝุ่นละอองปลิวเข้ามาสู่ตัวบ้าน กลับกันสำหรับประตูแบบเปิดออก ตัวประตูมักจะอยู่ต่ำกว่าพื้นบ้านหรือมีธรณีประตูกั้นช่องว่างเอาไว้ทำให้ฝุ่นละอองไม่สามารถพัดเข้าสู่ตัวบ้านได้ อย่างไรก็ดีการใช้ธรณีประตูก็มีความเสี่ยงในการสะดุดล้ม โดยเฉพาะบ้านที่มีเด็กหรือผู้สูงอายุอาศัยอยู่ด้วย
ข้อดีข้อเสียของประตูเปิดเข้าหรือเปิดออกตามศาสตร์ฮวงจุ้ย
ประตูหน้าบ้านถือเป็นทางเข้าสู่ตัวบ้าน ซึ่งประตูแบบเปิดเข้าเวลาที่เปิดเข้าไปในบ้านจะให้ความรู้สึกต้อนรับมากกว่าประตูแบบเปิดออก โดยเฉพาะบ้านที่เลือกใช้ประตูหน้าบ้านแบบบานคู่ควรเลือกใช้แบบเปิดเข้าพอจะให้ความรู้สึกที่ดีกว่า
ส่วนในทางฮวงจุ้ยก็มีหลากหลายตำรา บางตำราก็บอกว่าประตูแบบเปิดเข้าจะช่วยต้อนรับเอาพลังงานดี ๆ จากภายนอกหรือจากธรรมชาติเข้าสู่ตัวบ้าน ซึ่งพลังงานที่ว่านี้ก็คือพลังงานลมนั่นเองค่ะ อีกทั้งในประเทศจีนมักจะมีฤดูหนาวที่หิมะตกออกมา ซึ่งทำให้ไม่สามารถเปิดประตูออกไปข้างนอกได้เพราะฉะนั้นการใช้ประตูแบบเปิดเข้าด้านในจึงเหมาะสมกว่า
นอกจากนี้ในอีกตำราก็กล่าวว่า การทำประตูแบบเปิดออกแม้ตอนเปิดจะทำให้ลมไม่พัดเข้าไปในบ้าน แต่ตอนที่ปิดประตูก็มีการดึงเอาลมจากข้างนอกเข้ามาเช่นกันอยู่ดี เพราะฉะนั้นในแง่ของพลังงานลมหรือพลังงานธรรมชาติก็ไม่แตกต่างกันมากนัก อย่างไรก็ดีจุดสังเกตคือ ประตูแบบเปิดออกเวลาเจ้าของบ้านต้องการเปิดบ้านเพื่อรับลมและพลังงาน ประตูแบบเปิดออกจะช่วยรับพลังงานได้ดีกว่าประตูแบบเปิดเข้า เพราะจะไม่รู้สึกว่ามีอะไรมาปิดกั้นความรู้สึกหรือปิดกั้นพลังงาน ช่วยให้รู้สึกโปร่งโล่งสบายมากกว่า
จะเห็นว่าประตูทั้ง 2 แบบต่างมีข้อดีข้อเสียไม่เหมือนกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเชื่อ รสนิยม พื้นที่ที่ติดตัง และความชอบส่วนบุคคล สุดท้ายหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์และช่วยให้ไอเดียในการเลือกว่าจะใช้ประตูแบบเปิดเข้าหรือเปิดออกสำหรับบ้านของคุณนะคะ